ฟ้าฮ่าม
"บ่าวอยู่กันสลอนเทียวนะเจ้า" "ก็ดี" ชายหนุ่มอมยิ้มร้ายกาจ "ให้พวกมันไปพูดต่อเสียด้วยว่าน้องไม่ได้หวงอ้าย แต่อ้ายหลงเมียต่างหาก"
ผู้เข้าชมรวม
14,536
ผู้เข้าชมเดือนนี้
100
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
หลังวันที่ ๑ ก.ค. ๒๕๖๔ จะยังเปิดให้อ่านฟรี ๕ บทแรกของภาค ๑ แต่ส่วนที่เหลือ (บทที่ ๖ - ๒๔) จะติดเหรียญนะคะ
และตั้งแต่บทที่ ๒๕ เป็นต้นไป จะลงให้อ่านแบบไม่ติดเหรียญ ๓ วัน หลังจากนั้นระบบจะเก็บเหรียญ พอจบภาค ๒ จะปรับเป็นเปิดบางตอนให้ทดลองอ่่านเหมือนภาค ๑ ค่ะ
----
นวนิยายเรื่องนี้ไม่เหมาะกับ
นักอ่านที่ไม่ชอบบทบรรยาย และ/หรือ นักอ่านที่ชอบบทสนทนาเยอะๆ
นักอ่านสายหวาน เพราะนักเขียนไม่ค่อยเติมน้ำตาล
แต่! ถ้าชอบเรื่องย้อนยุค โทนเรื่องหนักๆ ตัวละคร (โดยเฉพาะนางเอก) ย้ำคิดย้ำทำ มีเรื่องฝังใจ ฟุ้งซ่านและมีความน่ารำคาญในบางแง่มุม เชิญบทที่ ๑ ค่ะ
----
เยี่ยมรุ่ง เจ้าเฟื่องร้อย เจ้าแก้วก๊อ ขุนหลวงฟ้าฮ่าม ขุนจักรแสงเมือง หาญห่มฟ้า และเหล่าเจ้าราชบุตร ต่างเป็นตัวแทนของชายหญิงในยุคสมัยหนึ่งที่ชายเป็นใหญ่ สตรีถือเป็นสมบัติในเรือนของบุรุษ ไม่มีสิทธิ์เลือกเส้นทางชีวิตให้กับตนเองได้ และเจ้ามหาชีวิต เป็นเจ้าของชีวิตของไพร่ฟ้าทุกคน มีสิทธิ์สั่งเป็น...สั่งตายทุกผู้
และเพราะไม่อาจเลือกสิ่งใดได้ บ้างจึงต้องชะตาขาด บ้างพลัดพรากจากคนที่รักทั้งจากเป็นและจากตาย บ้างมีชีวิตอย่างทนทุกข์ทรมาน บ้างอยู่อย่างอ้างว้างเดียวดาย
และส่วนน้อยเหลือเกิน...ที่สุขสมหวังในบั้นปลาย
----
นวนิยายเรื่องนี้จะมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมล้านนาอยู่บ้าง เช่น ชื่อ ตำแหน่ง สรรพนาม แต่ไม่ได้ใช้อาณาจักรใดอาณาจักรหนึ่ง หรือช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์มาเป็นฉากหลังของนวนิยาย หรืออีกนัยหนึ่ง ไม่สามารถอ้างอิงประวัติศาสตร์ไม่ว่ายุคใด หรือชนชาติใดในนวนิยายเรื่องนี้ ชีวิตความเป็นอยู่และประเพณี เกิดจากวัฒนธรรมจริงผสมผสานกับจินตนาการของนักเขียน
----
ตัวอย่าง
----
แม้จะอายุย่างสิบเจ็ดปี ทว่าในความทรงจำของเยี่ยมรุ่งกลับมีเรื่องราวชวนให้ปวดร้าวหัวใจมากนัก
ทั้งเคยถูกเหยียบย่ำทำร้ายร่างกายและจิตใจอย่างสาหัส
จนบางครั้งยามนึกถึงเรื่องในอดีตก็ให้สงสัยว่านางยังครองสติครบถ้วนสมบูรณ์อยู่ได้อย่างไร
นางอยู่มาได้ด้วยความหวัง...หรือความแค้นกันแน่
เยี่ยมรุ่งเคยหวังว่าจะมีชีวิตที่ไม่ต้องอยู่ในอาณัติผู้ใด
หวังว่าจะมีอิสระเสรี ทำทุกสิ่งได้ตามใจ
ทว่าเกิดเป็นหญิงก็เท่ากับถูกจำขังไปแล้วครึ่งตัว ยามเด็กเชื่อฟังพ่อแม่
แต่งงานแล้วก็ต้องเชื่อฟังผัว พอแก่ตัวก็ต้องพึ่งพาลูกชาย
ความเป็นหญิงจึงทำลายความหวังของตนเองไปมากอยู่แล้ว
การติดตามเจ้าเฟื่องร้อยกลับไปยังเมืองรอยจึงเป็นจุดเริ่มต้นของความหวังและความแค้นอีกครา
หวัง...ว่าจะได้เริ่มต้นการทวงแค้นที่แลกมาด้วยชีวิตบริสุทธิ์ที่ยังไม่ถือกำเนิดชีวิตหนึ่ง และอีกกว่าครึ่งร้อยชีวิตที่ต้องโทษฟันคอริบเรือน!
----
เสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอทำให้นางยังไม่ขยับตัว
รู้สึกว่าใบหน้าของอีกฝ่ายแนบอยู่กับเรือนผมของตนเอง เมื่อนางเงยหน้าขึ้น จึงสัมผัสได้ว่าปลายจมูกของเขาไล้ผ่านหน้าผากของตนเองไป
เยี่ยมรุ่งใจหายวาบ เผลอสะดุ้งแล้วเบนศีรษะออก
กลับกลายเป็นว่าวงแขนคู่นั้นกลับรัดแน่นขึ้น คนที่ยังหลับส่งเสียงอืออาคล้ายถูกรบกวน
นางร้องฮึในลำคอ
ไม่สนใจอีกแล้วว่าเขาจะยังหลับสบายอยู่ พยายามดึงแขนที่รัดเอวนางไว้ออกจากกัน ทว่าแรงรัดกลับทวีขึ้นอีก
อ้อมแขนนั้นแน่นหนาเสียจนคนโดนกอดชักจะสงสัยว่าคนกอดหลับจริงหรือแกล้งหลับกันแน่
ในขณะเดียวกัน ใบหน้าของอีกฝ่ายก็ขยับจากหนุนหมอนมาซุกที่ซอกคอ
ลมหายใจที่ยังคงสม่ำเสมอเป่ารดคอและไหล่ ริมฝีปากอุ่นจัดแนบอยู่กับบ่าของนาง
ทำให้ความรู้สึกเหมือนมดไต่ หัวใจสั่นระรัวกลับมาอีกครั้ง
เยี่ยมรุ่งยกมือยันหน้าอกของชายหนุ่ม
กะจะผลักออก ผิวกายใต้ฝ่ามือนางค่อนข้างร้อน สัมผัสแข็งแกร่งทว่าเรียบลื่นทำให้รู้สึกเหมือนมีเลือดแล่นไหลขึ้นใบหน้าและติ่งหู
----
----
นวนิยายเรื่องอื่นของมุตตา
ผลงานอื่นๆ ของ มุตตา ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ มุตตา
ความคิดเห็น